Admin Admin
จำนวนข้อความ : 1108 : 62 Registration date : 07/10/2007
| เรื่อง: การบริจาคเลือด Mon Feb 02, 2009 7:56 pm | |
|
ก่อนอื่น…คุณรู้แล้วหรือยัง… ว่าตัวคุณมีเลือดกรุ๊ปอะไร?…สำคัญมากนะ… เพราะ ถ้าวันหนึ่ง...คุณเกิดอุบัติเหตุโดยไม่คาดฝัน ..ถ้าคุณเสียเลือดมาก แต่ยังพอมีสติอยู่ ....เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตรง นั้น.... จะต้องถามคุณอย่างแน่นอน…ว่า.....เลือดของคุณ ...กรุ๊ปอะไร? เจ้าหน้าที่...จะได้นำเลือดที่สามารถเข้ากับคุณได้...มาให้คุณ ...เพื่อเป็นการทดแทน....อย่างเพียงพอและรวดเร็ว...ในการที่จะช่วยชีวิตคุณ ...(แทนที่ในปริมาณที่คุณเสียไป) ---แต่หากคุณไม่รู้กรุ๊ปเลือดของตัวเอง....เจ้าหน้าที่ก็ต้องนำเลือดคุณไป ตรวจก่อน....คุณจึงต้องรอเวลา....ที่จะได้รับเลือดเข้าสู่ร่างกาย..... แต่ ณ ช่วงเวลานั้น ..ร่างกายคุณ…อาจไม่รออะไรแล้วก็ได้… **การรู้หมู่เลือด*** 1. ระบบ ABO (A, B, O หรือ AB) 2. ระบบ Rh (D+, Rh+ หรือ D- และ Rh-)
เป็นประโยชน์ และเพิ่มความปลอดภัยแก่ตนเองเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เลือด (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นเลือดชนิดที่หาได้ยากในคนไทย เช่นผู้ที่เป็น Rh ลบซึ่งในคนไทยพบเพียง 0.3 เท่านั้น)
***การปั่นแยกเลือด***
เลือดที่ได้รับบริจาค 1 ถุง (300-450 มล.) สามารถนำไปปั่นแยก ...ด้วยเครื่องปั่นชนิดพิเศษ ...ซึ่งจะได้ส่วนประกอบต่างๆ ตามต้องการ 2-4 ชนิด ได้แก่
**เม็ดเลือดแดงเข้มข้น (Packed Red Cells) **เลือดที่มีเม็ดเลือดขาวน้อย (Leukocyte Poor Blood) **เกร็ดเลือดเข้มข้น (Platelet Concentrate) **พลาสมา-สดแแช่แข็ง (Fresh Frozen Plasma) **ไครโอปริซิปิเตท (Cryoprecipitate) **พลาสมา (Plasma) – ส่วนน้ำที่เหลือ...จากการแยกเม็ดเลือดแดงเข้มข้น... ออกจากเลือด ....มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ ...โปรตืนและน้ำ... ดังนั้น... การปั่นแยกเลือด 1 ถุง ...จึงเป็นการใช้เลือดอย่างคุ้มค่า ....เพื่อให้ผู้ป่วยแต่ละโรค ที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน....(คุณสามารถช่วยชีวิต/ยืดชีวิตคน ได้อีกหลายคน) .....อีกทั้งยังช่วยลดปัญหา...การขาดแคลนเลือด ...ทั้งยังทำให้ผู้ป่วย.....ได้เฉพาะส่วนที่ตนเองต้องการเท่านั้น....เพราะถ้าได้ส่วนอื่น ....ก็จะไม่เกิดประโยชน์อันใด
การให้เลือดและส่วนประกอบชนิดต่าง ๆ ของเลือด แก่ผู้ป่วย *เลือด*
ใช้สำหรับผู้ป่วยที่เสียเลือดมาก จนเกิดภาวะช็อคและอาจเสียชีวิตได้ มีสาเหตุมาจาก
-การผ่าตัดใหญ่ อุบัติเหตุต่าง ๆ บนท้องถนน หรือ ในโรงงานอุตสาหกรรม
-โดนยิง โดนแทงด้วยของมีคม การตกเลือด การแท้ง
-โรคตับแข็ง มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร โรคไข้เลือดออก โรคไตวายเรื้อรัง ฯลฯ *เม็ดเลือดแดงเข้มข้น* ผู้ป่วยมีการเสียเลือดอย่างเรื้อรัง และร่างกายสร้างไม่ได้ -โรคโลหิตจาง (Aplastic Anemia), โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia), โรคธาลัสซีเมีย -โรคไตวายเรื้อรัง โรคตับแข็ง และโรคมะเร็ง เลือดออกในกระเพาะอาหาร / ลำไส้ ฯลฯ
*เกร็ดเลือดเข้มข้น* การที่จำนวนเกร็ดเลือดต่ำกว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะเลือดออกไม่หยุดที่อวัยวะต่าง ๆ ได้แก่
-โรคโลหิตจาง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
-โรคไข้เลือดออกชนิดรุนแรง (อาเจียนและถ่ายเป็นเลือดถ้าได้รับเกร็ดเลือดทดแทนไม่ทัน อาจเสียชีวิตได้)
-การผ่าตัดหัวใจ และ ผู้ป่วยที่เกร็ดเลือดไม่สามารถทำหน้าที่ได้ อาจเป็นโดยกำเนิด ฯลฯ
*พลาสมา-สดแช่แข็ง*
-โรคฮีโมฟีเลียทุกชนิด, โรคไข้เลือดออก, โรคตับแข็ง -มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร, การผ่าตัดหัวใจ / ตับ ฯลฯ *ไครโอปริซิปิเตท -โรคฮีโมฟีเลีย เอ, การตกเลือดภายหลังคลอด, การผ่าตัดหัวใจ
*พลาสมา*
สำหรับผู้ป่วยบางโรค ที่มีการสูญเสียน้ำอย่างมากจนเกิดภาวะช็อค -แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก, ไข้เลือดออก, โรคไต โรคตับ (ที่มีอาการบวมมาก)
***ภาวะที่ร่างกายมีเลือดน้อย*** ฉันเคยเจอเหตุการณ์ ...ในภาวะที่ร่างกายมีเลือดน้อยมาแล้ว....
(ทำให้รู้สึกสงสารผู้ป่วย.....ที่เลือดน้อยมาแต่กำเนิดมาก)....อาการที่ี่เกิดขึ้นก็คือ
*หน้ามืด *หายใจไม่ค่อยออก *สมองชา มึน (คิดอะไรไม่ค่อยออก) *ตัวเย็นเฉียบ (หนาวมากด้วย) *ตาพร่ามัว *เหงื่อออกท่วมตัว (จริง ๆ ) *ปวดหัวมาก (เหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ) *ลำไส้บิดมวน บีบจนเจ็บ-- จำเป็นต้องอาเจียน (แม้จะมีแต่น้ำและสุดท้ายคือน้ำลาย) นี่คืออาการ...ที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกัน..ลองจินตนาการดู ..(ขอบอกว่า ทรมาน-มาก-มาก)
**ฉันได้ยิน...หมอพูดกับคนที่มาบริจาคเลือดว่า "ต้องขอบคุณมากเลยนะคะ.......ที่บอกต่อ ๆ กัน...ให้ช่วยกันมาบริจาค ถ้าทางโรงพยาบาล ...สามารถผลิตเลือดเองได้ ..คงตั้งหน้าตั้งตา ผลิตกันทั้งวันทั้งคืน คงไม่ต้องรอแต่คนใจบุญ....มาบริจาคอย่างเดียว"
**เลือด... เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของร่างกาย แต่ถ้าเราสละออกมาเพียงส่วนหนึ่ง.... โดยที่ร่างกายเรา....ยังสามารถดำรงอยู่ได้…คงจะดีนะ …หากได้ช่วยเหลือชีวิต หรือ ....ยืดอายุผู้อื่น….ให้ยืนยาวต่อไป …ถือว่าเป็นกุศลอย่างสูง
**ถ้ามีความตั้งใจจะไปบริจาคเลือด ....ดูแลตัวเองให้ดี ๆ..... ** กินอาหารให้ครบหมู่ ......นอนหลับพักผ่อน วันละ ประมาณ 6-7 ชั่วโมง ...ติดต่อกันประมาณ 7 วันขึ้นไป ..แล้วคุณจะมีเลือดที่สมบูรณ์..ที่พร้อมจะช่วยเหลือผู้อื่นได้แล้ว (ปัจจุบันโรงพยาบาลส่วนใหญ่ จะรับบริจาค วัน เสาร์-อาทิตย์ ด้วยนะ อ้างโน่นอ้างนี่ไม่ได้แล้วล่ะ)
[size=21]**ถ้าคุณคิดว่า.... ข้อความที่กล่าวมานี้...พอจะมีประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้างจะ ...Forward ต่อ.....ก็ได้นะ....(ลองคิดดูเองแล้วกัน) **การเสียความตั้งใจ ...คือ ....ความผิดหวังอย่างร้ายแรง**
ที่มา: ธนาคารเลือด คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล | |
|